ประกันรถยนต์คืออะไร สิ่งจำเป็นที่เจ้าของรถยนต์ทุกคนควรรู้
การที่จะซื้อรถยนต์สักคันหนึ่ง นอกจากปัจจัยต่างๆของรถคนนั้นทั้งเรื่องยี่ห่อ ประเภทของรถ ความประหยัดน้ำมัน คุณภาพและอื่นๆยังมีปัจจัยในด้านต่างๆนอกเหนือจากนั้นที่คุณควรจะต้องพิจารณาร่วมด้วยทั้งเรื่องภาษี และแน่นอนเรื่องของ ประกันรถยนต์ นั่นเอง
ประกันภัยรถยนต์คืออะไรทำไมจึงจำเป็นจะต้องทำ
ประกันรถยนต์ หรือ การประกันภัยรถยนต์ คือ การทำประกันภัยเพื่อคุ้มครองความสูญเสียหรือความเสียหายอันเกิดจากการใช้รถยนต์ไม่ว่าจะเป็น เก๋งส่วนบุคคล รถบรรทุก รถโดยสาร และรถจักรยานยนต์ ซึ่งได้แก่ ความเสียหาย บุบสลาย หรือสูญหายของตัวรถยนต์ นอกจากนี้ยังคุ้มครองรวมไปถึงความสูญเสียหรือเสียหายที่รถยนต์ก่อให้เกิดขึ้นแก่ชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก รวมทั้งบุคคลที่โดยสารอยู่ในรถยนต์นั้นด้วย โดยบริษัทหรือผู้รับประกันภัยที่ได้ทำสัญญากันไว้ จะออกหนังสือให้แก่ผู้เอาประกันภัยแต่ละรายเรียกว่า “กรมธรรม์ประกันภัย” หรือหลักฐานของสัญญาประกันภัย ซึ่งจะระบุว่าบริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัย เมื่อเกิดความเสียหายขึ้นตามเงื่อนไขที่ได้ระบุนั่นเอง ซึ่งขณะเดียวกันผู้เอาประกันภัยแต่ละรายก็จะต้องจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นให้แก่บริษัทประกันภัยตามอัตราความเสี่ยงของตน หรือที่เรียกว่า “เบี้ยประกันภัย”
การประกันภัยรถยนต์จำแนกออกเป็น 2 ประเภท
ทั้งนี้ ประกันรถยนต์ ได้มีการจำแนกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน คือ
- การประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ( พ.ร.บ. ) หมายถึง การประกันภัยรถยนต์ประเภทที่กฎหมายกำหนดบังคับให้เจ้าของรถซึ่งใช้หรือมีรถไว้เพื่อใช้ต้องจัดทำทุกคัน ตามกฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัย โดยมีเจตจำนงเพื่อให้เกิดความคุ้มครองแก่ชีวิตร่างกายของประชาชนที่ ประสบภัยเป็นสำคัญ ซึ่งมีผลบังคับใช้ต้องต่อพร้อมทะเบียนในทุกๆปี
- การประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ หมายถึง การทำประกันภัยรถยนต์ที่กฎหมายไม่ได้บังคับ สามารถทำเพิ่มนอกเหนือจากพ.ร.บ.ได้ตามความพอใจของผู้เอาประกันภัยหรือเจ้าของรถยนต์นั่นเอง โดยสามารถเลือกซื้อหรือทำประกันกับบริษัทประกันภัยต่างๆ ตามความคุ้มครองแต่ละประเภทที่ผู้เอาประกันภัยประสงค์หรือเห็นว่าเหมาะสมได้เอง โดยบริษัทประกันจะออกกรมธรรม์ประกันภัยให้ไว้เป็นหลักฐาน โดยจะมีความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นตามแบบที่นายทะเบียนให้ความเห็นชอบเอาไว้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้การประกันภัยภาคสมัครใจ ยังแบ่งออกเป็นทั้งหมด 5 ประเภทด้วยกัน คือ
ประเภท 1 ให้ความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด
- ความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก และผู้โดยสารในรถ
- ความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
- ความเสียหายของตัวรถยนต์คันเอาประกันภัย
- ความเสียหายต่อตัวรถยนต์เนื่องจากไฟไหม้ และการสูญหาย
ประเภท 2 คุ้มครองผู้เอาประกันในเรื่อง
- ความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก และผู้โดยสารในรถ
- ความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
- ความเสียหายต่อตัวรถยนต์เนื่องจากไฟไหม้ และการสูญหาย
ประเภท 3 ให้ความคุ้มครองเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอก
- ความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก และผู้โดยสารในรถ
- ความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
ประเภท 4 ให้ความคุ้มครองเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับทรัพย์สินบุคคลภายนอก
- ความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ในวงเงินไม่เกิน 100,000 บาท/ครั้ง
ประเภท 5 ผู้เอาประกันภัยจะได้รับความคุ้มครองในเรื่อง
- ความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก และผู้โดยสารในรถ
- ความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
- ความเสียหายของตัวรถยนต์คันเอาประกันภัย แต่ต้องแจ้งคู่กรณีได้เท่านั้น
- ความเสียหายต่อตัวรถยนต์เนื่องจากไฟไหม้ และการสูญหาย
การทำ ประกันรถยนต์ ถือได้ว่าเป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าของรถหรือผู้ที่ใช้งานทุกคนควรต้องพิจารณาและเลือกทำอย่างรอบคอบและใส่ใจ เพื่อเป็นกันประกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้นั่นเอง